กฐินสามัคคี วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ ศาลาการเปรียญ วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ โดยยอดกฐินวันนี้รวมๆแล้วประมาณ ๑๒ ล้านบาท

โดยพระราชปริยัติกวี,ศ.ดร อธิการบดี ได้พูดถึง มจร และวัดไว้ว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายให้ มจร เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว เป็นแหล่งศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่ กราบไว้บูชา สักการะ และเป็นศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนาระดับโลกวัดซึ่งมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ ถือเป็นจิ๊กซอตัวสุดท้าย ที่แสดงออกให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางของการศึกษาพระพุทธศาสนาโลก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้สร้างขึ้นเพื่อดูแลด้านวิชาการ แต่วัดมหาจุฬา ได้สร้างขึ้นเพื่อดูแลด้านวิชาชีวิต เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นการสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ซึ่งมหาวิทยาลัย และวัด ต้องรวมเป็นอนึ่งอันเดียวกัน

ส่วนพระเทพปวรเมธี,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการสร้างศาลาการเปรียญซึ่งใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันนี้ซึ่งท่านได้กล่าวว่า ที่มาของการสร้างวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศได้ดำเนินตามนโยบายพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร การสร้าง มจร ต้องสร้างวัดอยุ่ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งผู้บริหาร ส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ จึงจำเป็นต้องทำสังฆกรรม ต้องมีที่อยู่จำพรรษา จึงเป็นนโยบายหลัก ต้องสร้างวัดในมหาวิทยาลัย
จากนั้น ได้รับความเมตตา พระพรหมมังคลาจารย์หลวงพ่อปัญญา ทำการสร้างโบสถ์กลางน้ำ สร้างเสร็จยังไม่ได้ดำเนินการยกเป็นวัด เนื่องจากยังสร้างอาคารต่างๆไม่สมบูรณ์ ต้องสร้างมหาจุฬาให้เกือบสมบูรณ์ก่อนจึงค่อยสร้างวัด การสร้างมหาจุฬา

บัดนี้ มจร เกือบจะครบเสร็จสมบูรณ์แล้ว สิ่งต่อไปที่จะทำคือการปลูกต้นไม้เป็นพื้นที่สีเขียว มจร จากนั้นจึงดำเนินการสร้างวัด ขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย พื้นที่ ๕๓ ไร่ และเสนอมหาเถรสมาคมให้ความเห็นชอบ ก็เป็นวัดที่สมบูรณ์ ถูกต้องตามกฎหมายในเร็วๆนี้

การสร้างวัดไม่ได้แยกโฉลดที่ดินจากวัดมหาจุฬา แต่จำเป็นจะต้องขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย สร้างวัด เพราะไม่ต้องการให้วัดแยกส่วนกับมหาวิทยาลัย มีผู้บริจาคสร้างวัด ๑๕ ไร่ คุณทองเล็ก ไม้ตราวัฒนา

การสร้างศาลาการเปรียญ ชื่อ ศาลาการเปรียญ ดร.อุไรศรี คนึงสุขเกษม มีที่มาของชื่อวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ แห่งนี้ คือสร้างวัดขึ้นเพื่ออุทิศถวายล้นเกล้ารัชกาลที่๕

ซึ่งศาลาหลังนี้มีต้นแบบอาคาร จากวัดนวมินทราชูทิศ ที่อเมริกาที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ออกแบบโดย ศ.สมศักดิ์ ธรรมเวชวิถี โดยมี ดร.อุไรศรี เป็นเจ้าภาพในการสร้างศาลาหลังนี้ งบประมาณการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งสิ้น ๗๗ ล้าน มีระบบสาธารณูปโภคครบ สายไฟลงใต้ดิน และมี รศ.ดร.อุไรวรรณ เป็นเจ้าภาพสร้างหมู่กุฏิเจ้าอาวาส น้องสาวด้วยงบประมาณ ๑๒ ล้าน ส่วนหมู่กุฏิ คือแม่ชีทองสุข นามเจ็ดสีและคณะ งบประมาณ ๑๒ ล้านเช่นกัน จากนั้นจะจัดพื้นที่สีเขียวเป็นลานธรรม เพื่อตอบสนองพันธกิจ ด้านงานบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคม

ต่อมาดร.อุไรศรี คนึงสุขเกษม เจริญศรัทธาจึงได้ขอเป็นเจ้าภาพ สร้างพระพุทธนิมิตองค์ใหญ่ สูง ๑๙๘ นิ้ว หน้าตัก ๑๒๙ นิ้ว สร้างถวายไว้เป็นอนุสรณ์ ให้ได้กราบไหว้บูชา งบประมาณ สร้างพระพุทธรูป และ เครื่องใช้ในวัด จำนวน ๕ ล้านบาท และคุณอริสา จะสร้างสะพานเชื่อมที่สระน้ำ ที่สามารถถ่ายภาพ เป็นแลนมาร์คของมหาวิทยาลัยและวัดได้ หมู่กุฏิจะขุดสระล้อมรอบ และส่วนสุดท้ายที่กำลังจะสร้างคือรั้วรอบบริเวณวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ ล็อคละ ๓หมื่นห้า ยังรับเจ้าภาพ กำแพงหน้าวัด และประตูหน้าวัดเป็นทางเข้า หน้าอุโบสถถ์กลางน้ำ เป็นลานธรรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ เจริญศรัทธา นี่คือ ที่มาคร่าวๆ ของการสร้างวัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *